แนวข้อสอบ
พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
1. พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 บังคับใช้เมื่อใด
ก. 28 พฤษภาคม 2535 ค. 18 พฤษภาคม 2553
ข. 18 พฤษภาคม 2535 ง. 28 พฤษภาคม 2553
ตอบ ก. 28 พฤษภาคม 2535
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวัน ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. ใครคือผู้ลงนามผู้รับสนองพระบรมราชโองการในพรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535
ก. อานันท์ ปันยารชุน ค. อานันท์ ปันยารชุน
ข. พลเอก สุจินดา คราประยูร ง. พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
ตอบ ก. อานันท์ ปันยารชุน
3. ข้อใด ที่ พรบ. นี้ได้เปลี่ยนมาเป็น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ก. กระทรวงวิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม
ข. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ค. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ง. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ตอบ ค. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
4. ตาม พรบ.นี้มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม หมายความว่าอย่างไร
ก. ค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำ
ข. ค่ามาตรฐานคุณภาพสัตว์ พืช
ค. ดุลยภาพของธรรมชาติ อันได้แก่ สัตว์ พืช
ง. ค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำ อากาศ เสียง และ สภาวะอื่นๆ
ตอบ ง. ค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำ อากาศ เสียง และ สภาวะอื่นๆ
“มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม” หมายความว่า ค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำ อากาศ เสียง และ สภาวะอื่นๆ ของสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดเป็นเกณฑ์ทั่วไปสำหรับการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
5. ใครคือผู้แต่งตั้ง เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ค. รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ด้านอำนวยการ)
ง. ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
“เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการเกี่ยวกับ การควบคุมมลพิษตามพระราชบัญญัตินี้
6. ข้อใดที่คือองค์กรที่ไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ก. องค์กรเอกชนซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย
ข. ที่มีกิจกรรมเกี่ยวข้องโดยตรงกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ค. มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง หรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ง. องค์กรเอกชนซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ
ตอบ ค. มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง หรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
มาตรา 7 เพื่อเป็นการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้องค์กรเอกชนซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย หรือกฎหมายต่างประเทศที่มีกิจกรรมเกี่ยวข้องโดยตรงกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และมิได้มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง หรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมดังกล่าว มีสิทธิขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม* ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
7. ใครมีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรการป้องกันและจัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ หรือภาวะมลพิษที่เกิดจากการแพร่กระจายของมลพิษ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ค. รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ด้านอำนวยการ)
ง. ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มาตรา 10 เพื่อเป็นการป้องกันแก้ไข ระงับหรือบรรเทาเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุภยันตราย จากภาวะมลพิษตามมาตรา 9 ให้รัฐมนตรีกำหนดมาตรการป้องกันและจัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อ แก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า
8. ใครคือประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข. นายกรัฐมนตรี
ค. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ง. ปลัดกระทรวงกลาโหม
ตอบ ข. นายกรัฐมนตรี
9. ใครมีอำนาจแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. คณะรัฐมนตรี
ค. ปลัดกระทรวงกลาโหม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม
ตอบ ข. คณะรัฐมนตรี
10. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีว่าระอยู่ในตำแหน่งความละกี่ปี
ก. 6 ปี ค. 4 ปี
ข. 5 ปี ง. 3 ปี
ตอบ ง. 3 ปี
11. กรณีที่แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มในระหว่างที่กรรมการคนเดิมยังเหลือวาระอยู่ กรรมการคนที่แต่ตั้งเพิ่มต้องรำรงตำแหน่งกี่ปี
ก. เต็มวาระ 3 ปี
ข. ครึ่งหนึ่งของวาระที่กำหนดตาม พรบ. นี้
ค. ดำรงตำแหน่งเท่าวาระที่เหลือของ กรรมการคนเดิม
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ดำรงตำแหน่งเท่าวาระที่เหลือของ กรรมการคนเดิม
มาตรา 14 ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราว ละสามปี แต่อาจได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้เป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่เกินอีกหนึ่งวาระ
ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับ แต่งตั้งไว้แล้ว
12. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อใด
ก. ตาย
ข. เป็นบุคคลล้มละลาย
ค. เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 15 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๔ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(5) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(6) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ หรือมีความประพฤติ เสื่อมเสียหรือมีส่วนได้เสียในกิจการหรือธุรกิจใดๆ ที่อาจมีผลกระทบโดยตรงหรือก่อให้เกิด ความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม
13. กองทุนที่จัดตั่งขึ้นตาม พรบ. นี้ คือกองทุนใด
ก. กองทุนสิ่งแวดล้อม
ข. กองทุนทรัพยากรธรรมชาติ
ค. กองทุนพัฒนาสิ่งแวดล้อม
ง. กองทุนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ
ตอบ ก. กองทุนสิ่งแวดล้อม
14. ข้อใดคือเงินและทรัพย์สินของกองทุนสิ่งแวดล้อม
ก. เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามจำนวนที่นายกรัฐมนตรีกำหนด
ข. เงินที่โอนมาจากเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการพัฒนาสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิต
ค. เงินจากดอกผลและผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดจากกองทุนนี้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
15. ส่วนใดมีหน้าที่เก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุนสิ่งแวดล้อม
ก. กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
ข. สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ค. สำนักคณะกรรมการคุณวุฒิ
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ก. กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
มาตรา 22 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งเรียกว่า “กองทุนสิ่งแวดล้อม” ในกระทรวงการคลังประกอบด้วยเงินและทรัพย์สินดังต่อไปนี้
(1) เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามจำนวนที่นายกรัฐมนตรีกำหนด
(2) เงินที่โอนมาจากเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการพัฒนาสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๕
(3) เงินค่าบริการและค่าปรับที่จัดเก็บตามพระราชบัญญัตินี้
(4) เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นคราวๆ
(5) เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่ได้รับจากภาคเอกชนทั้งภายในและภายนอกประเทศ รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ
(6) เงินจากดอกผลและผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดจากกองทุนนี้
(7) เงินอื่นๆ ที่ได้รับมาเพื่อดำเนินการกองทุนนี้
ให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุนสิ่งแวดล้อม และดำเนินการเบิกจ่ายเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัตินี้