ประเภทของกระจก
กระจกที่เราจะมาพูดถึงนั้นแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือกระจกธรรมดา กระจกกึ่งนิรภัย กระจกนิรภัย กระจกลามิเนต และกระจกฉนวนกันความร้อน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสมแตกต่างกัน
1. กระจกธรรมดา
กระจกธรรมดา หรือFloat Glass เป็นกระจกที่ใช้งานกันทั่วไป และแย่งออกได้เป็นอัก 2 ประเภทคือ
กระจกใส คือกระจกที่สามารถมองทะลุผ่านตัวกระจกไปได้ โปร่งแสง และให้ภาพสะท้อนที่สมบูรณ์ สามารถมองเห็นได้จากทั้งภายในและภายนอก มีค่าตัดแสงอยู่ที่ประมาณ 8% ส่วนมากจะหนา 12 มิลลิเมตร ค่าการตัดแสงจะเพิ่มขึ้นตามความหนาของกระจก กระจกใสจะไม่ดูดความร้อน แม้ว่าต้องอยู่ด้านนอกอาคารก็ทนอุณหภูมิอากาศได้ดี
กระจกสี กระจกสีเกิดจากการผสมโลหะออกไซด์เข้าไปในขั้นตอนการผลิตทำให้กระจกเกิดสีสัน แต่กระจกสีจะต่างจากกระจกใสตรงที่ดูดความร้อน เพราะการเติมโลหะออกไซด์ลงไป ทำให้ดูดซึมความร้อนเข้ามาภายในอาคารได้มาก แต่กลับกัน กระจกสีช่วยในการกรองแสงหรือลดแสงที่จะเข้ามาได้ดีกว่ากระจกใส ช่วยลดความจ้าของแสงได้ ด้วยความที่กระจกสีสามารถเก็บความร้อนได้ดี จึงควรติดไว้ในที่ที่มีการระบายอากาศ ไม่ควรเอาอะไรไปปิดทับหรือวางใกล้กระจก เพราะจะทำให้กระจกไม่สามารถระบายความร้อนและอาจแตกร้าวได้ง่าย
2. กระจกกึ่งนิรภัย
กระจกกึ่งนิรภัย หรือ Heat Strengthened Glass
เป็นกระจกที่ผลิตจากกรรมวิธีที่ทันสมัย ด้วยการทำกระจกธรรมดามาผ่านกระบวนการอบความร้อนที่อุณหภูมิสูงประมาณ 700 องศาเซลเซียส แล้วก็ค่อยๆทำให้เนื้อกระตกเย็นลงอย่างช้าๆด้วยการเป่าลมไปที่กระจกทั้ง 2 ด้านทำให้กระจกชนิดนี้มีคุณสมบัติแข็งแกร่งกว่ากระจกธรรมดาถึง 2 เท่า ฝกระจกกึ่งนิรภัยจะสามารถรับแรงอัดของลมได้ดีว่ากระจกธรรมดาที่มีความหนาเท่ากัน นิยมนำไปใช้ในการก่อสร้างกับอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียม เพื่อป้องกันการแตกของกระจกที่มีสาเหตุจากความร้อนสูงภายนอกอาคาร
3. กระจกนิรภัย
กระจกนิรภัย หรือ Tempered Glass
เป็นกระจกที่นิยมใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะเวลาแตกจะกลายเป็นเม็ดเล็กๆคล้ายเม็ดข้าวโพด และไม่มีความคม จึงทำให้เกิดอันตรายและบาดเจ็บได้น้อยกว่ากระจกธรรมดา นอกจากนี้กระจกนิรภัยหรือเทมเปอร์กลาส ยังมีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาถึง 5 เท่า เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพที่เสี่ยงต่อการแตกร้าวง่าย เช่น อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัด
4. กระจกลามิเนต
คือการนำกระจกนิรภัยหลายๆชั้น ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปมาประกบกันโดยมรการติดแผ่นฟิล์ม PVB ที่มีคุณสมบัติความเหนียวคั่นไว้ตรงกลาง ทำหน้าที่ยึดแผ่นกระจกให้ติดกัน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงและความปลอดภัยสูง หรือได้รับแรงเลื่อน แรงปะทะบ่อยๆ คุณสมบัติอีกอย่างของ Laminated Glass คือ สามารถลดแสง UV และเสียงรบกวนได้ดี เหมาะกับการนำไปใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย เช่นการใช้เพื่อกั้นห้องที่ไม่ต้องการให้เกิดเสียงทะลุทั้งเข้าและออก
5. กระจกฉนวนกันความร้อน
กระจกฉนวนความร้อนเป็นกระจกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ คล้ายๆกับการทำกระจกกึ่งนิรภัย คือการนำกระจก 2 แผ่นมาประกบกัน แล้วนำเฟรมอลูมิเนียมคั่นกลาง กระจกชนิดนี้จะช่วยในด้านการประหยัดพบังงานและกันความร้อนได้ดี ทั้งความร้อนระหว่างภายในและภายนอกอาคาร ป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากด้ายนอก และป้องกันเสียงรบกวนจากด้านนอกได้ดี
ติดตั้งงานกระจกราษฎร์บูรณะ
ติดตั้งงานกระจกบางปะกอก
ติดตั้งงานกระจกราษฎร์บูรณะ